“มุมทะเลจันท์ โฮมสเตย์” ณ หมู่บ้านไร้แผ่นดิน

One Day Trip ในทริปนี้เราขอพาท่านผู้อ่านย้ายมุมเที่ยวมาทะเลฝั่งทางจังหวัดจันทบุรี

พาไปเที่ยวกันในเชิงอนุรักษ์ อยากให้ได้ไปสัมผัสกับธรรมชาติที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ ที่หมู่บ้านไร้แผ่นดิน

บ้านบางชัน ตั้งอยู่ในเขตอำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี บริเวณปากแม่น้ำเวฬุ กับคำขวัญที่ว่า

“หมู่บ้านไร้แผ่นดิน ถิ่นเหยี่ยวแดง แหล่งปลาเสือ เหลือเชื่อทะเลแหวก แมกไม้โกงกาง ฟ้าสางที่บางชัน”

เป็นหมู่บ้านที่มีประวัติมาอย่างยาวนานร้อยกว่าปี จากชุมชนเล็กๆ กระทั่งมาเป็นหมู่บ้านที่ขึ้นชื่อว่า เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ

ที่สมบูรณ์อีกแห่งในทะเลไทยฝั่งตะวันออกบ้านเรา มีวิถีชุมชนแบบเรียบง่ายที่อยู่คู่กับป่าชายเลน

อาชีพหลักในชุมชนคือการทำประมง การสัญจรในชุมชนทางเรือเพียงอย่างเดียว

พร้อมพาไปสนุกกับกิจกรรมหลากหลายและพักกันที่ “มุมทะเลจันท์ โฮมสเตย์” กินปู ล่องแพ ชมเหยี่ยวแดง เดินทะเลแหวก

ชื่อทริปแลอาจจะยาว แต่ถ้าได้ไปเยือน รับรองอยากจะขออยู่กันแบบยาวๆ

การเดินทางออกจากจังหวัดระยองกันแต่เช้า มุ่งหน้าเข้าจังหวัดจันทบุรี อย่าถามว่าไปกันแบบไหน กางแผนที่คงไม่ใช่อย่างแน่นอน

เปิดจ้า Google Map พิมพ์ “ท่าเรือปลายจันท์” วิ่งไปตามที่แผนที่แจ้งได้เลยนะคะ การเดินทางไปหมู่บ้านไร้แผ่นดิน ต้องนั่งเรือไป

เพียงทางเดียว อย่างที่กล่าวไว้ตอนต้นนะ ต้องขึ้นเรือที่ “ท่าเรือปลายจันท์” อัตราค่าเรือและค่าฝากรถ

• อัตราค่าจอดรถบนฝั่งอยู่ที่คันละ 70-300 บาท รับฝากทั้งรถเก๋ง/กระบะ, รถตู้และรถบัส
• ส่วนราคาเรือโดยสารนั้นมีทั้ง เรือลำเล็กนั่งได้ 6 ท่าน เวลาเดินทาง 15-20 นาที ราคาไป-กลับ 1,000 บาท
• เรือลำใหญ่นั่งได้ 20 ท่าน เวลาเดินทาง 30-40 นาที ราคาไป-กลับ 2,400 บาท

เรือเป็นเรือของชาวบ้านโดยทางโฮมสเตย์เป็นฝ่ายติดต่อให้เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าค่ะ

สำหรับวันนี้เราโดยสารเรือลำใหญ่กัน นั่งอยู่ในเรือ รับลมทะเล มองวิวสวย เพลินๆ กัน เวลา 30 นาที ช่างไวยิ่งนัก

ถึงท่าเทียบเรือที่หน้า “มุมทะเลจันท์ โฮมสเตย์” แล้วจะสังเกตเห็นว่าการตกแต่งไม่เหมือนโฮมสเตย์แบบชาวบ้านๆ ถือว่าแหวกแนว

โฮมสเตย์ในละแวกนี้ค่ะ ฉันมาถึงญี่ปุ่นแล้วใช่มั้ยเนี้ย? (เอามือทาบอกเบาๆ) ขึ้นจากเรือมาได้ อันดับแรกเลยถ่ายรูป-เช็คอินจ้าาาา

ขนของเข้าห้องพักกันก่อนดีกว่า ระหว่างทางเดินเข้าห้องพัก บรรยากาศโดยรวมออกแนวญี่ปุ่นน่ารักๆ ตกแต่งด้วยต้นซากุระ

ต้นไผ่ มีสระปลาคราฟตามทางเดิน

มีสะพานทางเชื่อมระหว่างห้องพัก ป้ายเลขหน้าห้องพักเป็นภาษาญี่ปุ่น ห้องพักเป็นแบบประตูบานเลื่อน

โอ๊ยๆ ญี่ปุ่นไปไหนคะ  ชอบๆ เปิดห้องพักมาจะสะดุดตากับผ้าปูที่นอนกันก่อนเลย ลายเข้ากับบรรยากาศเชียว

ภายในห้องพักมีที่นอน 5 ที่ ตามจำนวนทีมงานที่ติดต่อมาเข้าพักค่ะ

ห้องน้ำมีครีมอาบน้ำ แชมพู ครีมนวดให้บริการ สิ่งที่เราต้องเตรียมกันมาเองนะ ผ้าเช็ดตัว แปรงสีฟัน ยาสีฟัน (ถ้าจะให้ดีพกมาเลยค่ะ

ของใช้ส่วนตัว) ภายในห้องพักไม่มีตู้เย็นนะแต่จะมีบริการน้ำดื่มให้ห้องพักละ 1 แพค

สำรวจห้องพักกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ออกไปทานข้าวกลางวันกันดีกว่า หิวแหละ มื้ออาหารที่นี่เป็นแบบบุฟเฟ่ต์ ทานได้ไม่อั้น

ไม่อิ่มเติมได้ เสิร์ฟตลอด ทางโฮมสเตย์จัดมาเสิร์ฟให้บนโต๊ะกันก่อน 1 ชุด เป็นอาหารพื้นบ้าน เมนูจะมีดังนี้ ส้มตำ//ต้มจืด//

แกงส้ม//กุ้งชุบแป้งทอด//ผัดผัก//เส้นจันท์ผัด (เมนูอาหารอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้นะจ๊ะ)

ปริมาณอาหารจัดให้พอดีกับความอิ่มของจำนวนสมาชิกที่นั่งโต๊ะ แต่ถ้าท่านใดเอร็ดอร่อยในรสชาติ ทานไม่อิ่มเติมได้

แต่ต้องทานกันให้หมดนะคะ แต่สำหรับเราอาหารที่ทางโฮมสเตย์จัดมาให้ก็ถือว่าอิ่ม อร่อย กำลังพอดีแล้วนะ

หลังทานข้าวกลางวันเสร็จก็จะมีของหวานล้างปากเป็น “ลอดช่องสายรุ้ง” หวานๆ เย็นๆ หอมกะทิ ทานแล้วชื่นใจ คลายร้อนได้

อิ่มกันแล้วเราก็เดินย่อย เดินเล่นบริเวณโฮมสเตย์กันสักหน่อยรอเวลาขึ้นแพกันนะคะ บริเวณโฮมสเตย์มีมินิมาร์ทชุมชนให้เราได้เข้าไป

ช้อปขนมกรุบกริบ เครื่องดื่มต่างๆ รวมไปถึงของฝากของที่ระลึกกันด้วยนะ

ช่วงเวลายามบ่ายกว่า เราจะได้สนุกกับกิจกรรมล่องแพ เตรียมตัวขึ้นแพกันประมาณบ่ายสามโมงกว่าๆ บนแพจะมีดีเจเปิดเพลงมันส์ๆ

เพิ่มอรรถรสในการล่องแพ

เพลินกับการชมเหยี่ยว ที่มากินอาหารโดยทางพนักงานของโฮมสเตย์เป็นผู้ให้ สำหรับใครที่ยังไม่เคยมาเยือนอาจจะค่อนข้างตื่นตา

ตื่นใจกับจำนวนเหยี่ยวที่มีเยอะมากๆ ธรรมชาติที่สุด

แพจะจอดให้เราแวะเดินทะเลแหวกสามารถลงไปพอกโคลนธรรมชาติกันได้ เค้าว่ากันว่าพอกแล้วผิวจะดี นุ่ม แต่ดำ(ถ้ายังไม่ล้างออก)

ระยะเวลาทั้งไปและกลับในการล่องแพใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมงค่ะ กลับมาถึงที่พักแล้วจัดแจ้งอาบน้ำรอท่าเพื่อ…

มาทานอาหารเย็นกันในเวลาประมาณหกโมงเย็นกว่าๆ อาหารเสิร์ฟให้บนโต๊ะเช่นเดิมจ้า กติกาเดิมทานไม่อั้น ไม่อิ่มเติมได้ เสิร์ฟตลอด

แต่ต้องทานให้หมดนะจ๊ะ มื้อเย็นนี้ความสุขสำหรับคนรักอาหารทะเลอย่างแท้จริง ชื่นชอบในการทานปู กุ้ง ปลา

ในมื้อนี้อยากบอกว่าเราๆ แทบไม่แตะข้าวกันเลยค่ะ สาธยายถึงเมนูมื้อเย็นกันดีกว่า ว่าดีงามเพียงใด เริ่มกันที่พระเอกของโต๊ะ

อลังการงานปูจ้าา ปูทะเล(ปูดำ)นึ่งตัวใหญ่มากๆ แกะออกมาเนื้อสดๆ หวานๆ แน่นๆ ถ้าอยากกินปูดำไข่ต้องมาช่วงเดือนตุลาคมนะ

จานต่อไปกับกุ้งลายเสือนึ่งตัวโต๊โต เรามาพักกันในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ก็ถือว่ายังพอมีให้เราได้ลิ้มลองกัน กัดไปเนื้อกุ้งแน่นๆ หวานๆ

จิ้มกับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสจัดจ้าน อยากบอกว่าอร่อยจัง (สองตัวอย่างอิ่ม) แต่ถ้าอยากจัดกุ้งลายเสือแบบเต็มๆ ให้มากันในช่วงเดือนธันวาคม

ยังมีอาหารเมนูอื่นๆ ให้เลือกทานกันแบบเต็มโต๊ะ อาทิ หมึกย่าง //ปูผัดผงกะหรี่//กุ้งแช่น้ำปลา//ปลาทอดราด 3 รส//ห่อหมก

//ต้มส้มปลา//ยำทะเล ปิดท้ายด้วยผลไม้ แค่เห็นรายการอาหารก็อิ่มแล้ว กินอิ่มแล้ว คืนนี้นอนหลับอย่างแน่นอน…แต่ขออีโนสักซองได้ป่ะ

ช่วงเวลายามเช้า ตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นกันที่หน้าโฮมสเตย์ สำหรับกิจกรรมในยามเช้า ทางโฮมสเตย์ก็มีนะคะ ใส่บาตรพระ ทำให้จิตใจแจ่มใส

แล้วเราก็ไปรองท้องกันเบาๆ ในมื้อเช้ากับเมนูข้าวต้มทะเล//กาแฟ//โอวัลติน//ขนมปัง ก่อนจะไปปั่นจักรยานเที่ยวรอบๆ หมู่บ้าน แวะซื้อของฝากจากชาวบ้านที่ตั้งขายกันหน้าบ้าน

ไกด์นำทางพาเราไปกราบนมัสการหลวงพ่อและดูของโบราณกันที่วัดบางชัน ได้เห็นของเก่าตั้งแต่สมัยที่มีคนจีนกลุ่มแรกมาบุกเบิก

ตั้งรกรากกันที่ชุมนนี้ รวมไปถึงยังได้เห็นใบเสมาหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าหมู่บ้านไร้พื้นดินมีมานานร้อยกว่าปีแล้ว

ก่อนกลับขอมารวมตัวกันกระโดดน้ำ เล่นน้ำ พายเรือคายัค ยังมีกิจกรรมทางน้ำอีกอย่าง “จิงโจ้น้ำ” ซึ่งเป็นเครื่องเล่นทางน้ำ

ที่ต้องใช้ความชำนาญแต่สนุกสนานและตื่นเต้นท้าทายให้ได้ทดลองเล่นอีกด้วย

พาเที่ยวกันไปอย่างเต็มที่ ถึงเวลาที่ต้องกล่าวคำว่า “กลับก่อนนะ” ในครั้งนี้

แต่จะกลับมาทักทายว่า “สวัสดี ฉันกลับมาแล้ว มุมทะเลจันท์ โฮมสเตย์” ในครั้งหน้าที่ได้มีโอกาสมาเยือน

มุมทะเลจันท์โฮมสเตย์

พิกัด : 65/2 หมู่ 2 ตำบ บางชัน อำเภอ ขลุง จันทบุรี 22110

เปิดบริการทุกวัน เวลา 08.30 – 21.00 น.

เบอร์โทรศัพท์ : 081-236-3914, 096-269-6424, 095-494-2924

Facebook : https://www.facebook.com/Mtthomestay/

“