Mera Mare Pattaya - A Boutique Luxury Hotel “เปลี่ยนวันพักผ่อนที่ธรรมดาให้เป็นวันที่แสนพิเศษ”
Mera Mare Pattaya (เมร่า มาเร่)
โรงแรมขนาดกะทัดรัด ที่แฝงด้วยความหรูหรา พร้อมซ่อนสตอรี่ไว้ในสไตล์การตกแต่งเป็นเรื่องราวที่น่าค้นหา
โรงแรมถูกออกแบบและตกแต่งภายในในสไตล์อังกฤษ สะท้อนเรื่องราวในช่วงยุคที่ประเทศอังกฤษกำลังรุ่งเรือง
ทางด้านอุตสาหกรรมเหล็กและทอง โทนสีที่ทางโรงแรมนำมาใช้ จะเน้นเป็นโทนสีขาว สีดำและสีทอง
เรามาถึงกันหน้าโรงแรมเมร่า มาเร่ จะเห็นป้ายโลโก้ของโรงแรมแวะถ่ายรูปเช็คอินกันแบบเก๋ๆ ก่อนได้นะ ว่ามาถึงแล้ว คืนนี้พักที่นี่นะ
สำหรับท่านที่ขับรถยนต์มาเอง สถานที่จอดรถจะอยู่ใต้อาคาร ขับเข้าไปจอดกันได้เลยค่ะ จากนั้นก็ขนสัมภาระ กดลิฟท์ขึ้นมาที่ชั้น 1
ก็จะเจอกับบริเวณล็อบบี้ของโรงแรม อันดับแรกที่เราจะสัมผัสได้คือกลิ่นของน้ำหอมชวนให้รู้สึกผ่อนคลาย ถือว่าเป็นเอกลักษณ์
ของทางโรงแรมได้เลยนะ
บริเวณภายในล็อบบี้เป็นแบบทางเดินตอนลึก พื้นปูด้วยหินอ่อนสีขาวสลับสีดำ เล่นสีสันได้อย่างลงตัวและตกแต่งได้อย่างหรู
พร้อมมีมุมรองรับลูกค้าไว้หลายมุมให้ได้นั่งรอแบบชิลๆ เซลฟี่กันได้แบบชิคๆ
ระหว่างที่เรายืนรอเช็คอินอยู่ที่เคาน์เตอร์จะสังเกตเห็นการตกแต่งบริเวณด้านหลังเคาน์เตอร์พนักงานต้อนรับ
เป็นรูปของผู้คนและกระเป๋าเดินทาง ซึ่งสื่อได้ถึงช่วงที่ประเทศอังกฤษมีความรุ่งเรือง มีนักธุรกิจและนักท่องเที่ยว
ได้เดินทางเข้ามาในประเทศเป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งโรงแรมยังต้อนรับแขกผู้มาเยือนด้วย welcome drink เป็นน้ำอัญชันเย็นๆ
และผ้าเย็นที่มีกลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ เช็ดแล้วทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นมาเลยค่ะ
โรงแรมเมร่า มาเร่ มีห้องพักให้บริการทั้งหมด 80 ห้อง แบ่งออกเป็น 5 Room Type
สำหรับห้องที่ทีมงานเรา Eastern Thailand Guide ได้เข้าพักกันเป็น
“Deluxe Garden View Room”
2 Single Beds อยู่ที่ชั้น 5 ของโรงแรม เป็นห้องแบบเตียงคู่ เข้ามาถึงห้องเราก็วางสัมภาระลง
แล้วสำรวจห้องพักที่เราจะต้องเอนกายในคืนนี้กันก่อนเนอะ
ภายในห้องออกแบบอย่างเรียบง่าย ดูดี โมเดิร์น มีระเบียงส่วนตัวสามารถมองเห็นวิวทะเลได้
พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องพักตามมาตรฐานของโรงแรม
ภายในห้องก็จะมีมุมมินิบาร์และเครื่องดื่มที่แช่ไว้ในตู้เย็นให้ด้วยนะ (แต่เสียตังค์จ๊ะ)
ส่วนที่ฟรีจะเป็นน้ำเปล่า 2 ขวด ชา กาแฟนะคะ
ไหนลองนอนลงที่เตียงดูซิว่านุ่มมั้ย อุ๊ยๆ แอบมีกระจกบนเพดานด้วย คืนนี้น่าจะหลับสบายดี เตียงนุ่มใช้ได้…
ห้องน้ำพร้อมอ่างอาบน้ำแบบลึกและฝักบัวอาบน้ำแบบวอล์กอิน แยกกันเป็นสัดส่วน
ระหว่างที่เรารอเวลามื้ออาหารเย็น เราได้ไปแอบชมห้องต่างๆ พร้อมเก็บรูปสวยๆ มาฝากกันด้วย
(แต่อย่าเพิ่งเข้าใจผิด ยังไม่ถึงเวลาลูกค้ามาเช็คอิน โรงแรมอนุญาตให้เข้าไปชมได้จ้า)
เริ่มกันที่ Room Type แรก “Sensation Suite” ห้องนี้อยู่ชั้นบนสุดของโรงแรม มุมตึกด้านหน้า มองเห็นวิวทะเลได้ 180 ํ
ห้องนอนแยกกันสองห้องแต่ละห้องมีห้องน้ำในตัว พร้อมอ่างจากุซซี่ที่สามารถมองเห็นวิวทะเลได้
ห้องนั่งเล่นกว้างขวางและยังมีPantry ขนาดเล็กเพื่อเตรียมอาหาร พร้อมพื้นที่รับประทานอาหาร
เหมาะสำหรับการพักผ่อนที่มากันเป็นแบบครอบครัวที่สมาชิกเยอะ
ถัดมา Room Type ที่สอง “Family Suite” สำหรับท่านที่มาพักแบบครอบครัวพร้อมมีเด็กๆ มาด้วย ถือว่าที่นี่ตอบโจทย์ของห้องพักได้เลยค่ะ
เพราะห้องนอนของผู้ใหญ่ และเด็กๆ จะแยกกันอย่างเป็นสัดส่วน คุณพ่อคุณแม่สามารถผ่อนคลายได้อย่างเป็นส่วนตัว
ภายในห้องนอนใหญ่มีทั้งเตียงขนาดคิงไซส์และเตียงเดี่ยว พร้อมห้องน้ำในตัว
ส่วนของห้องนอนเด็กๆ เป็นเตียง 2 ชั้น ผนังตกแต่งเป็นรูปแผนที่โลกและรูปดวงดาวต่างๆ พร้อมมีพื้นที่นั่งเล่นสำหรับเด็กด้วยนะ
ปิดท้ายสำหรับ Room Type ที่สาม “Junior Suite” เป็น Room Type ที่พิเศษมากๆ เลย เพราะมีเพียงห้องเดียวในโรงแรม
ห้องนี้น่าจะเหมาะสำหรับคู่รัก คู่ฮันนีมูนนะคะ ภายในห้องตกแต่งอย่างหรูด้วยกระเบื้องไม้และตกแต่งด้วยไม้โอ๊คสีน้ำตาลอ่อน
พร้อมพื้นที่นั่งเล่นขนาดใหญ่ มีPantry ขนาดเล็กและโต๊ะรับประทานอาหาร
ด้านนอกมีระเบียงคู่เพลิดเพลินไปกับวิวทิวทัศน์ของชายหาดพัทยาในมุม 180 ํ ดูพระอาทิตย์ตกในยามเย็น ช่างโรแมนติกดี
ทางโรงแรมยังมีอีกRoom Type เป็นห้อง “Deluxe Premier King Bed Room” ที่เราไม่ได้เข้าไปชมติดลูกค้าที่มาเข้าพักค่ะ
วันที่เราได้เข้าพักเต็มทุกห้องค่ะ
ถึงเวลาหิวกันแล้ว เราลงมากันที่ “ห้องอาหาร October Sky” อยู่ชั้นล่างบริเวณเดียวกับล็อบบี้
“October Sky” เป็นทั้งห้องอาหารเช้าและห้องอาหารนานาชาติ รวมถึงอาหารไทย เปิดบริการตั้งแต่เวลา 11.00 น. – 23.00 น.
ถือได้ว่าหิวเมื่อไหร่ก็ลงมาทานอาหารกันได้ตลอดเวลาเลยนะคะ
ในส่วนของไลน์อาหารเช้าจะเป็นในรูปแบบบุฟเฟ่ต์ อาหารนานาชาติ บริการตั้งแต่เวลา 6.00 น. – 10.30 น. ส่วน วันเสาร์ – วันอาทิตย์ ปิด 11.00 น.
“มุมอาหารและเครื่องดื่ม”
“มุมเบเกอรี่/ขนมปังต่างๆ“
“มุมสลัดบาร์”
“หมูผัดขิง/STIR-FRIED PORK WITH GINGER”
“หมึกผัดพริกเผา/STIR-FRIED SQUID WITH ROASTED CHILI PASTE”
“มะเขือม่วงอบชีส/BAKED EGGPLANT WITH CHEESE”
“หมูสันนอกรมควันซอสเกรวี่/Smoked Pork Lion Gravy sauce”
ในส่วนมื้ออาหารเย็นทางโรงแรมจัดเตรียมเมนูอาหารมาให้ทีมงานได้รับประทานกันหลากเมนูทั้งคาวและหวาน อาทิ
“Egg Noodles Tom Yam Moo Toon”
(บะหมี่แห้งต้มยำหมูตุ๋น) บะหมี่เหลืองเส้นเหนียวนุ่ม มากับหมูตุ๋นชิ้นใหญ่และไข่ต้มยางมะตูม น้ำต้มยำคลุกคลิก มองดูเหมือนๆ
จะไม่เผ็ดนะแต่เผ็ดจ้ะ ชื่อก็บอกแล้วว่าต้มยำ แต่รสชาติอร่อยโดยรวมไม่ต้องปรุงเพิ่ม
“Foccacia Italian Sausage & Tomato Basil”
(โฟคาเชีย ไส้กรอกอิตาเลี่ยน, มะเขือเทศและโหระพา) เราชอบเมนูนี้ค่ะ โฟคาเซียถาดใหญ่ แป้งโฟคาเซียแบบบางกรอบ หนักเครื่อง หอมซอส
“Roasted Smoked Duck Breast” (อกเป็ดอบเสิร์ฟกับซอสฮันนี่ราสเบอร์รี่)
“Grilled Salmon & Green Bean Salad” (สลัดถั่วแขกและแซลมอนย่าง)
สำหรับหน้าตาและรสชาติอาหารทั้งหมดไม่ขัดแย้งกัน หน้าตาดี รสชาติดี อร่อยรับรองว่าถูกปาก
ปิดท้ายกับการล้างปากด้วยชุดเซ็ทน้ำชายามบ่าย Afternoon Tea Set A กันที่โซนร้าน Pastry Addiction คาเฟ่สวยๆ
ซึ่งตัวร้านเชื่อมต่อมาจากห้องอาหาร October Sky ค่ะ มีทั้งโซนIndoor และ Outdoor ให้ลูกค้าได้เลือกนั่งกันนะคะ
เปิดบริการตั้งแต่เวลา 09:00 น. – 23:00 น.
ภายในโรงแรมยังมีสระว่ายและห้องฟิตเนส “GET Lean Fitness” ให้บริการ อยู่ที่ชั้น 2
ส่วนของสระว่ายน้ำไม่ค่อยลึกมากเด็กโตสามารถเล่นได้ ห้องฟิตเนสเป็นกระจกรอบด้าน มีอุปกรณ์การออกกำลังกายถือว่าครบค่ะ
Mera Mare Pattaya (เมร่า มาเร่) ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งที่พัก ที่เราอยากแนะนำเป็นอย่างมาก
ตอบโจทย์ได้เรื่องการพักผ่อนของท่านได้ สะดวกเรื่องทำเลที่ตั้ง
อยู่ใจกลางแหล่งที่เที่ยวในเมืองพัทยา ฝั่งตรงข้ามโรงแรมเป็นชายหาดพัทยา
สามารถเดินข้ามถนนไปสัมผัสกับพื้นทรายและเล่นน้ำทะเลกันได้เลยค่ะ
การเดินทางมาโรงแรมเมร่า มาเร่ เพียงกด Google Map พิมพ์ว่า Hotel Mera Mare
ก็จะแสดงพิกัดขึ้นมารับรองไม่หลงทางแน่นอนค่ะ
Mera Mare Hotel
Address: 420/200 Moo 9 Beach Road, Pattaya City, Chonburi 20150 Thailand
E-mail : info@meramarehotel.com
Phone : 038-111-800
Website : www.meramarehotel.com
Facebook : Mera Mare Hotel
IG : meramarehotel